

การเอาชนะ เรอัล มาดริด ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนมันคือความ “พิเศษ” เสมอแต่สิ่งที่ อาร์เซนอล และ ดีแคลน ไรซ์ ทำในวันนี้มันคือหนึ่งในความทรงจำของสโมสรแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ตลอดการค้าแข้งให้ทั้ง เวสต์แฮม และ อาร์เซนอล รวมกัน 338 เกม ดีแคลน ไรซ์ ไม่เคยยิงไดเร็ค ฟรีคิกเข้าแม้แต่ลูกเดียว
แล้วมันจะไม่พิเศษได้ยังไงครับในเมื่อมันเกิดขึ้นในเกมเดียวกัน จากนักเตะคนเดิมและที่สำคัญคือเลือกไม่ถูกว่าลูกไหนสวยกว่ากันอีกต่างหาก คือสวยแม่งทั้ง 2 ลูกแต่ส่วนตัวผมในเชิงเทคนิคลูก 2 ยัดสามเหลี่ยมดูยากกว่า
หรือตัดสินจากอากัปกริยาของเพื่อนนักเตะด้วยกันการกุมหัวหลังบอลซักตาข่ายของ มาร์ติน โอเดการ์ด และ วิลเลี่ยม ชาลิบา ตอบทุกอย่างหมดแล้วหลังจบเกมผมได้ยินคำชมจาก รุด กุลลิท, มิกาเอล ซิลแวสตร์ และพิธีกรอีกคนหลังมีการรีเพลย์ลูกยิงฟรีคิกทั้ง 2 ลูกของ ดีแคลน ไรซ์
คือยกคำว่าสุดยอด, สวย, งดงาม มาไว้ในคราวเดียวกันแบบไม่พักทั้ง magnificent, wonderful, fantastic คือถ้าให้เวลาอีกหน่อยน่าจะมีอีกหลายคำตามมา
มากไปกว่านั้น “ปืนใหญ่” ยังชนะแบบ outclass ด้วยการ “จำกัด” โอกาสและช่องทางทำมาหากินคือจังหวะ “เคาเตอร์” ของ มาดริด สังเกตได้ว่าหลัง บูกาโย่ ซาก้า พลาดส่งคืนหลังเบาในต้นครึ่งแรกจนถูก วินิซิอุส ลากหลุดครั้งนั้น
อาร์เซนอล เล่นบอลละเอียดขึ้นมาก กล่าวคือพยายามไม่เสียบอลกลางทางและหาทางจบ (หรือเปิดฯลฯ) ในพื้นที่สุดท้ายซึ่งทีมเยือนจะบุกต้องเริ่มตั้งเกมมาจากจุดที่แทบจะสุดสนามเลยทีเดียว
จริงๆ “ปืนใหญ่” ทำท่าจะมาตั้งแต่ครึ่งแรกแต่ คูตัวรส์ ช่วยชีวิตจนถุงมือแทบขาดก่อนยอมแพ้ให้กับลูกฟรีคิกโลกตะลึงของ ไรซ์ ไม่รู้นะผมมีความรู้สึกว่าการเล่นของ อาร์เซนอล ในช่วงปลายซีซั่นให้อารมณ์เหมือนคนไม่ยอม “สิโรราบ” ต่อปัญหารุมเร้า รวมถึงนัยนะสำคัญที่แฝงมาจากการขยี้ มาดริด คือการปลดพันธนาการตัวเองจากการสวมบทเป็น “ลูกไล่” เมื่อต้องเจอทีมใหญ่ในรอบน็อกเอาท์
ด้วยบรรยากาศในวันนี้และชัยชนะเล่นใหญ่เหนือทีมเบอร์ 1 ของโลกเชื่อว่าลูกทีม มิเกล อาร์เตต้า ขอตามตื้อสู้แย่งแชมป์ทั้ง 2 รายการจนหยดสุดท้ายแน่นอน…
Tags : Champions League 24/25, ปืนใหญ่ถล่มมาดริดยับ, อาร์เซน่อล 3-0 เรอัล มาดริด, แชมเปี้ยนส์ ลีก, ไฮไลท์ฟุตบอล