โดยมันจะมีผลให้เขาได้ร่วมงานกับ ไม่เกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมฟุตบอล “ไอ้ปืนใหญ่” อีกรอบด้วย ภายหลังจาก อาร์เตต้า เคยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า มาก่อน
เชซุส เปิดเผยว่า “ขั้นตอนแรกเลยผมจำเป็นต้องทำปรับนิสัยให้ได้ก่อน ผมจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมให้กับกลุ่ม, กับนักฟุตบอลผู้อื่น, กับกระบวนการเล่นของพวกเขา แล้วก็วิถีของพวกเขาให้ได้ หากผมทำแบบนั้นได้แล้วทุกสิ่งก็จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเอง บอลมันก็เป็นแบบงี้ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่แห่งไหนบอลมันก็เช่นกันหมด“
“จากนั้นผมก็อยากได้แชมป์บางสิ่งบางอย่างในตอนสุดท้ายฤดู ผมอยากได้แชมป์ ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นเช่นเดียวกับทุกคนของ อาร์เซน่อล โน่นเป็นทางเดียวที่ผมจะจารึกชื่อของตนเองให้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของสมาพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่นี้ได้“
“นี่เป็นสมาพันธ์ใหญ่ที่มีโปรเจ็กต์อันยิ่งใหญ่ เวลาที่ เอมอง (ผู้อำนวยการข้างแนวทาง) ชี้แจงให้ผมฟังว่าพวกเขาอยากอะไรสำหรับอนาคตน่ะ ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากมายๆที่จะมาร่วมงานกับ อาร์เซน่อล ด้วยเหตุว่าผมรักโปรเจ็กต์ของพวกเขา ผมอยากได้แชมป์ ผมอยากได้แชมป์มันทุกรายการเลย“
“ในชีวิตของผม ผมถูกใจโปรเจ็กต์ต่างๆอยู่เป็นประจำ ในช่วงเวลาที่ เอมอง มาคุยกับผมน่ะผมก็พึงพอใจกับไอเดียของสมาคมมากมายๆผมชื่นชอบกับหนทางที่พวกเขาปรารถนา, พึงพอใจกับสิ่งต่างๆที่พวกเขาต้องการจะทำให้ได้ แท้จริงในช่วงเวลานั้นผมก็เชื่อมั่นกับการมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในระดับหนึ่งแล้ว แม้กระนั้นพอใช้ได้คุยกับ ไม่เกล แล้วนั้น
ผมก็มั่นอกมั่นใจถึงระดับ 100 เปอร์เซ็นต์เลย เพราะเหตุว่าผมเชื่อในตัวเขา ผมเชื่อในชมรมใหญ่ที่นี้ รวมทั้งเชื่อมั่นในตัวเองแล้วก็ในนักฟุตบอลผู้อื่นด้วย ตรงนี้มีผู้ที่เก่งๆคนจำนวนไม่น้อย มีนักเตะฝีเท้าดีหลายราย แถมคนจำนวนไม่น้อยก็ยังอายุน้อยด้วยเหมือนกัน ผมเองก็ยังอายุน้อยอยู่เช่นกัน โดยเหตุนี้มันก็ราวกับว่าทุกคนเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันเช่นเดียวกับครอบครัว โน่นเป็นสิ่งที่ผมอยาก“
Tags : กาเบรียล เชซุส, อาร์เซนอล, อาร์เตต้า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, โจเซป กวาร์ดิโอล่า