ปลัดกระทรวงคมนาคม เผยว่า MRT และ BTS เตรียมปรับการวิ่งรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน ให้ความถี่อย่างต่ำ 3 นาที เหตุเพราะคนเข้าขบวนได้เพียง 1 ใน 4 จากช่วงปกติ น้อมรับในทุกข้อติติง ขอให้เข้าใจว่าต้องเว้นระยะห่างช่วงโควิด-19 ด้วย
วันที่ 8 พ.ค. 2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงถึงกรณีการเดินทางของประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัย ซึ่งในช่วงนี้เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ ต้องปรับการใช้บริการหลายรูปแบบของขนส่งสาธารณะ ทั้ง บก ราง น้ำ และอากาศ
สำหรับภาพความแออัดของรถไฟฟ้าก็เป็นบทเรียนสำคัญ ซึ่งกระทรวงคมนาคม มีการมอบหมายหน่วยงาน ซักซ้อมแผน วิธีปฏิบัติ โดยเน้นการเว้นระยะห่างทางสังคมให้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจผู้ใช้บริการ และภายหลังการซักซ้อมเมื่อวันที่ 7 พ.ค. นี้
พบว่ามีการจัดการที่ดีขึ้นมาก รวมถึงได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี พร้อมน้อมรับข้อร้องเรียนเรื่องการรอคิวนาน เพราะจากเดิมรถไฟฟ้ารับผู้โดยสารได้ 1,000-1,100 คนต่อขบวน แต่เนื่องจากต้องเว้นระยะห่าง ทำให้รับผู้โดยสารได้เพียง 250 คนต่อขบวน ลดลงเหลือ 1 ใน 4 เท่านั้น
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT หรือ BTS ก็จำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถขนส่งเต็มพิกัดในชั่วโมงเร่งด่วน แต่จะไม่สามารถถี่มากได้ เพราะต้องเว้นระยะแต่ละขบวนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 นาที ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่ปลอดภัย โดยชั่วโมงเร่งด่วนจะปรับให้วิ่งภายใน 3 นาทีให้ได้
และแม้ว่าจะปรับแล้วแต่ก็ยังมีจำนวนผู้โดยสารที่รอใช้บริการอยู่ จึงต้องมีการจัดพื้นที่ให้บริการเป็นช่วงๆ พร้อมขอความกรุณาเข้าใจในสถานการณ์ช่วงนี้ที่ต้องจัดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และจะติดตามประมวลผล หากยังไม่เพียงพอก็จะเพิ่มมาตรการ
“การนั่งในรถไฟฟ้ามีเครื่องหมายให้เว้นระยะอยู่แล้ว ส่วนการยืนที่พื้นมีเครื่องหมายเช่นกัน ทุกคนรู้ว่าตัวเองต้องเว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 เมตร อีกทั้งนายกรัฐมนตรีก็สั่งการให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ทำงานที่บ้าน ลดการเดินทางลง จึงอยากขอความร่วมมือบริษัทเอกชนให้พนักงานทำงานที่บ้าน จะเป็นการช่วยลดการเดินทางได้มาก หรือเหลื่อมเวลาการทำงาน”
Tags : BTS, MRT, กระทรวงคมนาคม, ช่วงโควิด-19, ปรับการวิ่ง, รถไฟฟ้า